วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
พระปิดตาหลวงปู่ทับ วัดทอง พิมพ์ยันต์ยุ่ง ราคา 1 ล้านบาท
หลวงปู่ทับ เกิดเมื่อ 15 ค่ำ เดือน 7 ปีมะแม ตรงกับวันที่ 29 พฤษภาคม 2390 ณ บ้านคลองชักพระ บางกอกน้อย
เมื่ออายุครบ 20 ปี ได้อุปสมบทที่วัดช่างเหล็ก หลังบวชแล้วได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดทอง และได้ร่ำเรียนวิปัสสนากรรมฐานและวิชาพุทธาคม ไสยศาสตร์มิได้ขาด หลวงปู่ทับมรณภาพเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2456 สิริอายุ 66 ปี พรรษา 45
พระเครื่องที่หลวงปู่ทับสร้างขึ้น ส่วนมากจะเป็นแบบลอยองค์นั่งขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์ที่ล้วงปิดทวาร จะล้วงลงทางด้านในไม่ผ่านหน้าแข้ง ด้านข้างองค์พระไม่ปรากฏรอยตะเข็บเลย เพราะท่านสร้างด้วยวิธีปั้นหุ่นด้วยเทียนขี้ผึ้งทีละองค์แล้วจึงใช้ดินเหนียว ประกอบด้านนอก
หลังจากนั้นจึงเทโลหะที่หลอมละลายผ่านช่องทางก้นหุ่น เนื้อโลหะที่ร้อนจัดจะทำให้เทียนสลายตัวสำรอกออกทางรูที่เจาะไว้ เหลือแต่เนื้อโลหะเป็นรูปองค์พระแทน นอกจากองค์พระจะไม่มีรอยตะเข็บแล้ว ยังไม่มีความเหมือนกันเลยทั้งรูปองค์ และลวดลายของอักขระยันต์ การกำหนดเลขยันต์ที่จะบรรจุลงบนองค์พระนั้น หลวงปู่ท่านได้เลือกอักขระที่เหมาะสม มีความหมาย มีอำนาจแห่งพุทธาคม บรรจุลงตามส่วนต่างๆ ขององค์พระ เว้นช่องไฟได้เหมาะเจาะสวยงาม
เนื้อพระที่มีความนิยมสูง ได้แก่ เนื้อสำริดเงิน ซึ่งปัจจุบันนี้หายากมาก
วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
พระท่ากระดาน กรุศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ราคา 5 ล้านบาท
พระท่ากระดาน เป็นพระเครื่องที่สร้างในยุคสมัยอู่ทอง ประวัติพระท่ากระดาน สันนิษฐานว่า ผู้ที่สร้างมิใช่พระสงฆ์ แต่เป็นฆราวาสที่เรียกกันว่า ฤๅษี ในยุคโบราณ เป็นการสันนิษฐานจากหลักฐานที่ปรากฏบนใบลานเงินลานทอง ในการค้นพบพระเครื่องกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี และพระเครื่องกรุวัดพระบรมธาตุ จ.กำแพงเพชร ที่ได้กล่าวถึงการสร้างพระเครื่องของบรรดาพระฤๅษีทั้ง ๑๑ ตน
แต่มีฤๅษีอยู่ ๓ ตน ที่ถือว่าเป็นใหญ่ในบรรดาฤๅษีทั้งปวง คือ ฤๅษีตาไฟ ฤๅษีตาวัว และ ฤาษีพิลาลัย ฤาษีที่สันนิษฐานว่าเป็น ผู้สร้างพระท่ากระดาน ก็คือ ฤๅษีตาไฟ โดยการอาราธนาของ เจ้าเมืองท่ากระดาน เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ก็นำมาบรรจุไว้ในอารามสำคัญของเมืองท่ากระดาน เมืองศรีสวัสดิ์ และเมืองกาญจนบุรีเก่า ในสมัยนั้น
แหล่งที่พบพระท่ากระดานในครั้งแรกๆ นั้นพบอยู่ที่วัดร้างในตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี และสถานที่แห่งนี้เองเป็นแหล่งกำเนิดพระท่ากระดาน ต่อมาจึงเรียกพระชนิดนี้ว่า "พระท่ากระดาน" ตามตำบลที่พบ การขุดหาพระท่ากระดานนั้นได้มีคนขุดพบพระท่ากระดานกันมานานแล้ว และขุดพบกันต่อมาเรื่อยๆ ส่วนมากได้กันครั้งละไม่กี่องค์ พบกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณวัดร้างทั้ง 4 วัด คือวัดบน วัดกลาง วัดล่าง และวัดต้นโพธิ์ ต่อมาพบที่ถ้ำใกล้ๆ นั้นอีกคือที่ถ้ำลั่นทม ต่อมาได้มีการขุดหาอย่างจริงจังที่ตำบลท่ากระดานอีกในปี พ.ศ.2495-2496 พระที่พบในตำบลท่ากระดานนี้จะเรียกกันว่า "พระท่ากระดานกรุเก่า" พระที่พบเป็นพระเนื้อชินสนิมแดงทั้งหมด บางองค์จะมีการปิดทองมาแต่ในกรุ พระส่วนใหญ่จะมีสนิมไขขาวคลุมอยู่อีกชั้นหนึ่ง
พระท่ากระดาน มีพุทธศิลปะแบบสกุลช่างอู่ทองหน้าแก่ อายุราวปลายพุทธศตวรรษที่ 19 พุทธคุณเด่นทางด้านมหาอุด อยู่ยงคงกระพันชาตรี และโชคลาภ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)